หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ปรารถนาให้ลูกน้อยโตขึ้นอย่างแข็งแรงในทุกๆวันถือเป็นความมุ่งหวังยิ่งของผู้ที่เป็นแม่และพ่ออย่างสูง เวลาที่ลูกเจ็บไข้ หัวอกของพ่อแม่ก็แทบทลาย

แต่การที่ลูกจะมีสุขภาพดี และแข็งแรงนั้นก็มิใช่จะบังเกิดกับเด็กทั้งหมด เช่นกับน้องแอมป์บุตรสาวคนเล็กของคุณยุพาพร ลูกน้อยคนนี้มีอายุเพียงสองขวบเศษเท่านั้น ก็ต้องพบกับโรคชั่วร้าย ล้มป่วยเป็นก้อนเนื้องอกในช่องท้อง

“กลางคืนหนึ่งน้องเกิดมีไข้สูงถึง 38-40 องศา ต้องรีบเร่งพาส่งโรงพยาบาลโดยทันที หนแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2554 ก่อนหน้านี้มีอาการท้องบวม ปวดท้องอย่างไม่เบา ท้องผูก และอุจจาระแข็ง แพทย์ขอทำการเจาะเลือด เจาะไขสันหลัง สำหรับสำรวจหาเนื้องอกและนำเลือดไปตรวจสอบที่ห้องแล็ป”

“ผลการตรวจพบเนื้องอกในช่องท้องของน้อง มีความยาวราวๆ 8 เซนติเมตร กว้าง 5 เซนติเมตร จำเป็นต้องกรีดหน้าท้องเพื่อนำชิ้นเนื้อในท้องไปสืบสวนเพื่อคลำหาคำตอบ ตอนนั้นแพทย์ก็แจ้งกับคุณยุพาพร ผู้เป็นแม่ให้เตรียมใจเอาไว้ว่าชิ้นเนื้อที่พาไปวิเคราะห์นั้น สามารถเป็น เนื้อร้าย 80% สิ้นเสียงหมอเหมือนกับฟ้าผ่าลงกลางใจของคนเป็นแม่”

“ฉันทำได้เพียงพยักหน้าแล้วอุ้มลูกมากอดรัดไว้ที่อก ลูกเองก็กอดรัดแม่เอาหน้าซบไหล่ ได้แต่กล่าวในใจว่าลูกยังเด็กนักเกิดมาได้ 1 ปี 6 เดือน ต้องลาจากแล้วเหรอ แล้วบอกกับตนเองว่าน้องยังตายไม่ได้แม่จะทำการทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อขอให้ลูกดำรงชีพอยู่ เมื่อถึงที่อาศัยก็ไม่เอ่ยปากกับใครได้แต่สวดมนต์ไหว้พระจนพ่อของน้องโทรมาหาฉัน ดิฉันบอกไปร้องไปจนปวดหัว พ่อน้องบอกให้ยังไงก็ต้องรักษา”

ผลสำรวจจากห้องแล็ปถูกเอามาในเวลาบ่ายของวันเดียวกัน ปรากฏว่าชิ้นเนื้อที่เอาไปตรวจสอบนั้นไม่ใช่เนื้อร้าย แต่ก็จำเป็นจะต้องรีบทำการดูแลรักษาด้วยการให้คีโม

“การให้เคมีบำบัดครั้งแรกเมื่อเดือนมกราคม เป็นเหตุให้เส้นของน้องระเบิด เป็นไข้ และเกล็ดเลือดลดลง หมอทำการตรวจสแกนกระดูก เมื่อหวนกลับพักรักษาตัวที่บ้าน ดิฉันกับสามี ต้องพร้อมใจกันฉีดยาละลายลิ่มเลือดให้ลูกทุกวัน ลูกก็ยังต้องทานยาลดความดันสูงตลอดเวลา”

“ช่วงที่ทำคีโมผิวของน้องเริ่มดำคล้ำ เล็บมือและเล็บเท้าก็ดำคล้ำ ปากซีดเผือด หน้าเซียว ผมก็คล้ายๆกับต้นหญ้าแห้งไหม้ ผิวเหี่ยว เพียงแค่เดินก็ไม่มีแรง กินอาหารได้บางเบา และเขาจะร้องห่มร้องไห้กลัวคนแปลกหน้า โดยเฉพาะหมอและนางพยาบาล”

ถึงแม้จะอยู่ในช่วงเวลาความระทมทุกข์ของครอบครัว เหตุการณ์ที่ดีก็เกิดขึ้นพอให้ทั้งหมดในบ้านมีแรงใจขึ้นมามั่งไม่มากก็น้อย เมื่อบ้านใกล้เรือนเคียงแนะนำน้ำแอคทิเวท ให้กับน้องได้ลองดื่ม

“หลานของเพื่อนข้างบ้านคนนี้เป็นโรคลูปัสและได้เอาน้ำ ACTIV120 (Activated Water)มาดื่มพร้อมทั้งใช้ล้างตัว ผลคือหลานมีอาการทุเลาอย่างยิ่ง จากเรื่องราวนี้จึงตัดสินใจให้น้องดื่มน้ำ ACTIV120 พร้อมกันไปกับการบำบัด ตั้งแต่ตอนให้คีโมหนแรกตอนกุมภาพันธ์ ปี 54”

“ฉันยังให้ลูกดื่มน้ำแอคทิเวท ไปพร้อมทั้งการให้เคมีบำบัดโดยไม่ให้ดื่มน้ำอื่นอีกเลย และหลังจากนั้นทุกครั้ง ที่จะทำการทำคีโมก็จะจำเป็นเจาะเลือดทุกที ข้อสรุปเลือดออกมาว่าเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดอยู่ในมาตรฐานเป็นปกติดี ไม่จำเป็นให้ยาเสริมใดๆ เลย ยิ่งกว่านั้นฉันยังดีใจเหลือประมาณเมื่อผลสรุปการเอ็กซเรย์ และการสแกนกระดูกเป็นปกติ”

ผลสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกน หรือคอมพิวเตอร์ความเร็วสูงครั้งที่ 2ทำภายหลังทีแรก 6 สัปดาห์ ตอนนี้ผ่านการทำคีโมครั้งที่ 1 และให้น้องดื่มน้ำดื่มแอคทิเวท ไปแล้ว พบว่าเนื้องอกในท้องเพลาลงจากโดยประมาณ 8 เซ็นติเมตร เหลือ 6 เซ็นติเมตร
บทสรุปการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่สาม ภายหลังครั้งที่ 2 12 อาทิตย์ เนื้องอกในท้องเล็กลงเหลือประมาณ 3 ซม.
ผลการเอ็กซเรย์ CT สแกนครั้งที่ 4 หลังจากครั้งที่ 3 16 อาทิตย์ กำลังรอผลจากแพทย์เพื่อรอการผ่าตัดเอาเนื้องอกออกให้หมดสิ้น

“น้องมีผดขึ้นใบหน้าใกล้เคียงกับกลากน้ำนมขึ้นที่แก้ม บางครั้งทานขนมแล้วเปรอะเปื้อนหน้ามีเม็ดขึ้น ดิฉันก็นำเอาผ้าชุบACTIV120 มาเช็ดหน้าให้เขา ผดผื่นก็ค่อยๆ ยุบตัวลงทั้งๆ ที่ไม่จำเป็นต้องทายา”

“ปัจจุบันน้องอนามัยแข็งแรงไม่เหมือนคนเจ็บ เป็นเด็กร่าเริง อารมณ์ดี พิสูจน์ได้ว่า น้ำ ACTIV120 ช่วยส่งเสริมอนามัยน้องได้"

“ก่อนหน้านี้ บุตรชายคนโตเป็นหวัดบ่อย ต้องพาไปหาหมอทุกอาทิตย์ บัดนี้ก็ให้ลูกนำน้ำ ACTIV120ไปดื่มที่โรงเรียนด้วยตลอดเวลา ฉันมีความเบิกบานมากด้วยว่าเขาไม่เป็นไข้หวัดอีกแล้ว”
ทุกวันนี้บ้านคุณยุพาพรเป็นครอบครัวน้ำดื่มแอคทิเวท (Activated Water)เพราะดื่มทั้งครอบครัว

“ครั้งหนึ่งพริกกระเด็นเข้าตาเจ็บแสบมาก ฉันใช้วิธีการการลืมตาในน้ำดื่มแอคทิเวท ผลปรากฎว่าหายแสบสนิท”
“ไม้หน้าบ้านเหมือนมันใกล้จะตายใบอับเฉาและเริ่มเหลือง ใช้น้ำ ACTIV120ไปรด 2-3 ครั้ง ดูว่าต้นไม้ฟื้นตัวและเขียวสดใสขึ้นมา”



เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง : https://activated-water-good-water.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น